Voice Commerce & Conversational AI: อนาคตของการซื้อขายแบบไม่ต้องคลิก

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเร็วและสะดวกขึ้น Voice Commerce และ Conversational AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้บริโภคสื่อสารกับแบรนด์ จากที่เคยคลิกและเลื่อนหน้าเว็บ วันนี้เพียง “พูด” ก็สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทันที   บทความนี้จะพาคุณสำรวจโลกของ Voice Commerce ตั้งแต่แนวโน้มปัจจุบัน เทคโนโลยีล่าสุด ตัวอย่างจากธุรกิจจริง และแนะนำวิธีที่ธุรกิจอย่าง Affinity.co.th จะก้าวเข้าสู่โลกใหม่แห่งการซื้อขายด้วยเสียงอย่างมั่นใจ

1. Voice Commerce คืออะไร? และทำไมถึงมาแรง

Voice Commerce คือการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการผ่านเสียงโดยตรง ไม่ต้องคลิก ไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ ผ่าน AI ที่จับใจความและสั่งทำธุรกรรมให้

ในปี 2025 การซื้อขายผ่านเสียงเติบโตอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ค้นหา จนถึงจ่ายเงิน หรือแม้แต่เริ่มกระบวนการคืนสินค้า

ข้อดีที่ชัดเจน:

  • ช้อปปิ้งแบบ hands-free — เหมาะกับสถานการณ์ที่ไม่สะดวกพิมพ์ เช่น ขับรถ หรือทำอาหาร
  • ง่ายและรวดเร็ว — ลำดับคำสั่งพูดง่ายกว่าคลิกหลายขั้น
  • Personalization — ระบบสามารถระบุของโปรดหรือรีสต็อกให้ตามพฤติกรรมเดิม

 

2. เทคโนโลยีที่สนับสนุนและพัฒนา Voice Commerce

a) Conversational Voice AI Agents

เช่น Synthflow AI ที่พัฒนา AI Agents ที่พูดโต้ตอบได้แบบ Real-time ใช้งานง่ายแบบ no-code เหมาะกับธุรกิจหลากหลายเซกเตอร์

b) Voice AI Ecosystem & Strategic Moves

SoundHound AI ซื้อแพลตฟอร์ม Allset เพื่อพัฒนา Voice Commerce Ecosystem แบบครบวงจร
Amazon เปิดตัว Nova Sonic โมเดลเสียง AI ที่สนทนาเป็นธรรมชาติ และอัจฉริยะมากขึ้น

c) Super Agents จากแบรนด์ยักษ์ใหญ่

Walmart พัฒนา “AI Super Agents” เช่น “Sparky” เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ง่ายและเฉพาะบุคคลมากขึ้น

d) Voice Authentication & Secure Transactions

Voice Commerce ยุคใหม่สามารถรองรับ Biometric Voice Recognition เพื่อยืนยันตัวตนขณะสั่งซื้อ แม้ในสินค้าหรือบริการที่มีความสำคัญด้านความปลอดภัยสูง

 

3. ข้อมูลเชิงตัวเลขและแนวโน้มตลาด

  • ตลาด Voice Commerce ในปี 2025 คาดว่าจะเติบโตเป็น $151 พันล้าน จาก $116 พันล้านในปี 2024
  • Conversational AI Market อีกหนึ่งมิติ เติบโตจาก $14.6 พันล้าน (2025) ไปถึง $30.8 พันล้าน (2029)
  • ธุรกิจที่ผสานไทยและแอปแชทรองรับ Voice ได้รับความสนใจสูง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย

4. วิธีเริ่มต้นกับ Voice Commerce สำหรับธุรกิจ

  1. เริ่มจาก Use Case ง่ายๆ เช่น การสั่งซ้ำสินค้า, ขอโปรโมชันประจำ, ตรวจสอบยอดค้างชำระ
  2. ใช้ Conversational AI Platform ที่รองรับภาษาไทย
  3. รองรับหลายภาษา & สำเนียง — สำคัญในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย เช่น รองรับสำเนียงไทยแบบท้องถิ่นหรือภาษาท้องถิ่นอื่นๆ
  4. ผสานกับระบบหลังบ้าน — เช่น CRM, Inventory, Payment Gateway เพื่อกระบวนการสั่งซื้อครบวงจร
  5. ทดลอง Voice Authentication — เพิ่มความปลอดภัยในการจ่ายเงิน หรือเข้าถึงโปรไฟล์ส่วนตัว

5. เทรนด์ที่ธุรกิจควรจับตา

  • Predictive Voice Shopping: AI ทำนายความต้องการ เช่น เติมของใช้ก่อนหมด, แนะนำสินค้าตามบริบทสถานการณ์
  • Multi-Modal Commerce: ผสมเสียงกับจอแสดงผล, AR แสดงสินค้า, Gesture ร่วมด้วย
  • Emotional Intelligence & Context Awareness: AI เข้าใจอารมณ์ลูกค้าและสถานการณ์ อย่างเช่นคำแนะนำสินค้าเมื่อฟังเสียงผู้ใช้ไอ หรือเสียงเหนื่อย
  • Secure Voice Payments: เพิ่มความปลอดภัยผ่าน biometric voice authentication ในธุรกรรมสำคัญ

 

ข้อควรระวัง

  • ความแม่นยำด้านภาษา: AI ต้องจำภาษาและสำเนียงให้แม่นเพื่อไม่สั่งผิดหรือแสดงผลผิดพลาด
  • ข้อมูลเสียงเป็นความเปราะบาง: ต้องดูแล Voice Data ด้วย Data Governance และ Privacy Policy
  • ความพร้อมผู้บริโภค: ลูกค้าส่วนหนึ่งยังไม่คุ้นชินกับการสั่งด้วยเสียง ต้องมีช่องทางสำรอง เช่น ดูข้อมูลใน app หรือเว็บไซต์

 

แบ่งปันบทความสาระน่ารู้

Facebook
Twitter
LinkedIn

บทความอื่นๆ