การตลาด 4.0 คือ Connected Marketing โดยการเชื่อมโยงทุกเครื่องมือของการตลาด เข้าหากัน ได้แก่ Online VS Offline Marketing, Inbound VS Outbound Marketing, Right time VS Real-time Marketing, On-off VS Ongoing Marketing และผสานกับเครื่องมือขายหลักๆ ได้แก่
1. การขายแบบดั้งเดิม (Traditional/ Offline Marketing) โดยใช้สื่อวงกว้าง Mass และสื่อท้องถิ่น Local
การใช้สื่อยุคเก่าซึ่งคนมองว่าเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว แต่หากว่ากลุ่มลูกค้าบางส่วน อาจเป็นคนท้องถิ่น หรือเป็นกลุ่มคนที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ ดังนั้นสื่อช่องทางเหล่านี้ยังคงเหมาะกับการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มอยู่ในปัจจุบัน
2. การขายผ่านสื่อดิจิตอล (Digital/ Online Marketing) โดยใช้ทั้ง Web-site/ Social Media/ Mobile Application
ช่องทางแห่งยุคสมัย 4.0 อย่างแท้จริง เนื่องจากทั้งตัว Website และ Application มีบทบาทกับสังคมการใช้ชีวิตในปัจจุบันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งหากสามารถเป็นเจ้าตลาดในโลก Online หรือ Social Media ได้นั้น การรับรู้และการเข้าถึงของผู้คนเป็นจำนวนมากย่อมตามมาด้วย ยกตัวอย่างเช่น ผู้คนหากต้องการหาสินค้าที่ไม่รู้แหล่งซื้อ-ขาย มักจะหาผ่านทาง Google/ Pantip หรือหลายคนที่นิยมของลดราคาสามารถตรวจสอบราคาได้ผ่านทาง Smartphone ทันที ดังนั้นหากเข้าถึงโลกออนไลน์ได้ย่อมมาลูกค้าตามมาหาเราอย่างแน่นอน
3. การขายผ่านหน้าร้านจริงๆ โดยเน้นการจัดหน้าร้านที่โดดเด่นที่สามารถสัมผัสด้วยประสาททั้งห้า
สินค้าบางชนิดยังคงต้องการทดลองด้วยประสาทสัมผัสก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เช่น หูฟัง โทรทัศน์ แม้ว่าเราจะสามารถเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้ผ่านทาง Online ได้ แต่การหลายครั้ง การทดสอบด้วยตนเองนั้นจะตรงกับความต้องการมากกว่า เพราะการซื้อของทาง Online ไม่สามารถ ฟังเสียงของหูฟังได้ หรือสีของจอภาพความคมชัดของโทรทัศน์ได้
4. การขายผ่าน E Commerce โดยสามารถผ่านหน้าร้าน E Commerce ของตัวเอง และผ่านหน้าร้านของ Market Place ที่มีชื่อ เสียงเช่น Lazada/ Zalora/ weloveshopping
ช่องทางนี้เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า Online Market Place ขนาดใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คนสามารถเข้าถึงสินค้าเราได้มากยิ่งขึ้น และระบบของตลาดออนไลน์เองที่ทำให้คนทั่วไปสามารถเลือกดูสินค้า ดูรูปภาพ ริวิว และตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ทันที รวมไปถึงการคืนสินค้าในบางกรณีที่ชำรุด ทำให้เป็นหนึ่งในวิธีการสำคัญที่แทบจะขาดไม่ได้ในการขายของยุคใหม่
โดยมีการบริหารข้อมูลลูกค้า ด้วยการจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ฐานข้อมูลการตลาดภายใน และนำไปผสานกับฐานข้อมูลภายนอก เพื่อให้มีข้อมูลลูกค้าทุกมิติ นั่นคือ Big data แล้วมาจัดเป็น Micro Segmentation ตามฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อขับเคลื่อนลูกค้าตาม Customer Journey ด้วยระบบการตลาดแบบอัตโนมัติ (Marketing Automation) ผ่าน Omni Channel เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและต่อเนื่องให้แก่ผู้บริโภคผ่านทุกช่องทางการขายที่เป็นไปได้แบบเชื่อมโยง 360 องศา ไม่ว่าจะเป็น มือถือ คอมพิวเตอร์ หน้าร้านค้าจริงๆ โทรทัศน์ วิทยุ จดหมาย แค็ตตาล็อก เป็นตัน
นั่นคือเราจะต้องแสดงตัวตนของเราให้เป็นที่รู้จักในตลาดแล้ว เราจะต้องดึงดูดลูกค้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังเข้ามาในระบบการตลาดเรา เพื่อให้ลูกค้าดังกล่าวถูก convert เป็นลูกค้าของเรา และให้เราได้สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าดังกล่าวจนกระทั่งเขากลายมาเป็นแฟนพันธุ์แท้ (Advocate) ของเรา
หากสนใจเรื่องการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า การทำให้ลูกค้าพึงพอใจ สามารถติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://affinity.co.th/news-article/?lang=th
และสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวงานของเราที่สามารถช่วยในส่วนนี้ได้ https://affinity.co.th/services/?lang=th
