ทุกวันลูกค้าพูดถึงแบรนด์ — ผ่านช่องทางมากมาย เช่น:
- รีวิวใน Shopee / Lazada / TikTok Shop
- คอมเมนต์ใน Facebook / TikTok / YouTube
- คำถามใน Inbox หรือ LINE OA
- ฟีดแบ็กหลังซื้อบนแพลตฟอร์ม E-commerce
- ข้อมูลจาก Call Center
- ข้อร้องเรียนใน Pantip หรือกลุ่มเฉพาะ
ในองค์กรจำนวนมาก ข้อมูลเหล่านี้ถูกเก็บไว้เพื่อ “ตอบกลับ” หรือ “แก้ปัญหาเฉพาะหน้า” แต่ไม่ได้นำมาวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์
ทั้งที่จริงแล้ว:
Voice of Customer (VOC) คือหนึ่งในข้อมูลที่ “ซื่อสัตย์ที่สุด” และเชื่อมโยงกับพฤติกรรมจริง
เพราะต่างจากผลวิจัยแบบตั้งคำถาม — VOC เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ลูกค้าพูดเพราะเขาอยากพูด ไม่ใช่เพราะถูกถาม
และนั่นคือเหตุผลที่ VOC Mining กลายเป็นแนวทางหลักของงาน Consumer Insight ในยุค 2025
ทำไมเสียงลูกค้าจึงสำคัญกว่าแบบสอบถามบางประเภท?
VOC มักมีคุณสมบัติ 3 อย่างที่ Researcher ให้ความสำคัญ:
- Real Emotion — เป็นอารมณ์จริง ไม่ผ่านตัวกรอง (unfiltered)
- Real Moment — เกิดขึ้นใกล้เหตุการณ์ เช่น หลังใช้สินค้า
- Real Use Case — ใช้ในบริบทจริง เช่น บ้าน ที่ทำงาน ที่ร้าน
ตัวอย่างใน Healthcare:
รีวิว: “กินแล้วโอเค แต่ขนาดเม็ดใหญ่ไป ต้องแบ่งกินสองครั้ง อยากให้มีรูปแบบผงละลายน้ำ”
ข้อความนี้ให้ Insight มากกว่าคำตอบแบบ 5 คะแนนในหลายแบบสอบถาม
เพราะมันสะท้อน:
- ปัญหาในการใช้งาน (pain point)
- ความต้องการ (need)
- ความคาดหวัง (expectation)
- โอกาสพัฒนาสินค้า (innovation direction)

แหล่ง VOC สำคัญในยุคปัจจุบัน
VOC ไม่ได้มีแค่รีวิวเชิงข้อความ แต่รวมถึงทุกประเภทเสียงของลูกค้า เช่น:
| ประเภท VOC | ตัวอย่าง |
| Explicit feedback | รีวิวคะแนน + คอมเมนต์ |
| Implicit feedback | 1-star review without explanation, abandoned chat |
| Customer support log | ปัญหาที่เจอบ่อย ๆ ใน call center |
| Social sentiment | การพูดคุยใน TikTok / FB Group / Pantip |
| Behavioral signal | การคืนสินค้า การเปลี่ยนแบรนด์ |
ทุกอย่างคือ “เสียงของลูกค้า” — เพียงแต่อยู่คนละรูปแบบ

ขั้นตอน VOC Mining ที่ใช้ได้จริง
VOC Mining ที่ดีจะไม่ใช่แค่การเก็บข้อความจำนวนมาก แต่ต้องมีการวิเคราะห์แบบ systematic approach
ขั้นตอนมาตรฐาน:
1) รวบรวมข้อมูลจากหลายช่องทาง (Data Consolidation)
เช่น:
- รีวิวออนไลน์
- Call Center transcripts
- Chat log
- Survey comment section
- Marketplace complaint tracking
2) ทำ Sentiment Analysis
แบ่งเสียงลูกค้าเป็น:
- Positive
- Neutral
- Negative
และวิเคราะห์ความเข้มของความรู้สึก เช่น:
😍 ชอบมาก
🙂 ใช้ได้
😐 เฉย ๆ
😕 ผิดหวัง
😡 ไม่พอใจมาก
3) จัดกลุ่ม Theme และ Pain Point
เช่นในสินค้าอาหารเสริม:
- Taste & Texture
- Convenience
- Trust & Safety
- Price-Value perception
- Packaging
4) ค้นหา Insight ที่ actionable
เช่น:
ลูกค้าไม่ได้ต้องการสินค้าราคาถูกกว่า — แต่ต้องการ “ผลลัพธ์เร็วและชัดเจน”
5) เชื่อมต่อ Insight เข้ากับ CX Strategy
ข้อมูลต้องนำไปใช้ได้ เช่น:
- Product improvement
- Marketing message
- FAQ update
- Customer onboarding
- Personalization journey
ตัวอย่าง VOC Mining ในอุตสาหกรรม Healthcare
ลองดูผลิตภัณฑ์ คอลลาเจนแบบผงผสมน้ำ ซึ่งมีรีวิวหลายพันรายการ
Pattern ที่เจอจาก VOC Mining:
| VOC Type | ข้อมูลจริงที่พบ |
| ⭐⭐⭐⭐⭐ | “เห็นผลใน 2 สัปดาห์ ผิวลื่นขึ้น” |
| ⭐⭐ | “ละลายน้ำช้า มีตะกอน” |
| คำถาม | “กินตอนเช้าหรือก่อนนอนดีกว่า?” |
| Negative | “ทานแล้วปวดท้อง อยากรู้ต้องทานหลังอาหารไหม” |
| Wish list | “อยากได้แบบซองพร้อมดื่ม ไม่ต้องชงเอง” |
Insight ที่เกิดขึ้น
จากความคิดเห็นจำนวนมาก ทีมวิจัยพบว่า:
- ลูกค้าต้องการ ผลลัพธ์เร็ว
- Convenience สำคัญมาก
- Education ยังไม่เพียงพอ
สิ่งที่ออกมาจาก VOC Mining คือ 3 กลยุทธ์สำคัญ:
| โอกาส | การใช้ประโยชน์ |
| Innovation | ออก version ready-to-drink |
| Communication | เพิ่ม messaging “เห็นผลใน X วัน” |
| CX / onboarding | ทำ instruction “กินเมื่อไหร่ดีที่สุด” |

VOC Mining ไม่ใช่แค่การฟัง — แต่ต้องลงมือแปลและตอบสนอง
องค์กรที่ใช้ VOC ได้ดีที่สุดคือองค์กรที่ทำ Feedback Loop Model:
Listen → Analyze → Act → Communicate Back
การ “ตอบกลับลูกค้า” หลังแก้ปัญหาเพิ่มระดับ Brand Trust และ Loyalty มากกว่าโปรโมชั่นจำนวนมาก
ข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นในการทำ VOC
❌ ดูแค่รีวิวดี–ไม่ดี
❌ โฟกัสที่ดราม่า มากกว่ารูปแบบ (pattern)
❌ ฟังเฉพาะเสียงดัง แต่ไม่ดูสัดส่วน
❌ ไม่เชื่อมข้อมูล VOC กับ business metric เช่น repeat rate หรือ conversion drop
เมื่อ VOC ทำงานร่วมกับ Survey Research — จะได้ Insight ที่สมบูรณ์ที่สุด
VOC = โลกความจริง
Survey = โลกความคิดเห็น
เมื่อรวมกันจะได้:
- What customers SAY
- VS What customers EXPERIENCE
- VS What customers EXPECT
- VS What makes them REPEAT or LEAVE
นั่นคือ Consumer Truth
สรุป
เสียงของลูกค้าไม่ใช่ Noise
แต่เป็น วัตถุดิบเชิงกลยุทธ์ ที่สามารถ:
- ช่วยพัฒนาสินค้า
- ปรับ Messaging ให้ตรงจุด
- ปรับ CX Journey ให้ดีขึ้น
- คาดการณ์ Pain point ก่อนเกิด Crisis
- เพิ่มความไว้วางใจในแบรนด์
และเมื่อแบรนด์ฟังอย่างมีระบบ — ลูกค้าก็พร้อมให้ความไว้วางใจกลับมา
แบรนด์ที่ฟังลูกค้าเก่ง คือแบรนด์ที่เข้าใจและเติบโตเร็วกว่าเสมอ
ต้องการทำ VOC Mining แบบเป็นระบบ เพื่อให้แบรนด์ฟังลูกค้าเก่งขึ้นและใช้ข้อมูลสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ?
📩 ปรึกษาเราได้เลย
🔗 LINE: https://lin.ee/TzhmJq5
👉 เปลี่ยนเสียงลูกค้าเป็น Insight และเปลี่ยน Insight เป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจ